K-On Tsumugi Kotobuki

วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2560

สถานที่ท่องเที่ยวในเบลเยี่ยม

1. Atomium (อะโตเมียม)




  สถาปัตยกรรมลูกเหล็กทรงกลมปัจจุบันได้รับการยกย่องให้เป็นแลนมาร์คของเกรุงบรัสเซลล์ โครงสร้างเป็นรูปทรงอะตอมขนาดยักษ์ถูกสร้างขึ้นเป็นหอแสดงนิทรรศการงาน Expo ในปีค.ศ. 1958 มีความสูงราว 108 เมตร ประกอบด้วยลูกบอลเหล็ก 9 ลูก ลูกบอลแต่ละลูกมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 18 เมตร ภายในมีทางเดินเป็นรางเลื่อนที่มีความทันสมัย มีจุดชมวิว ห้องอาหารและห้องแสดงงานศิลปะ อะโตเมียม เป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายในเชิงคุณค่าของการก้าวกระโดด สู่ยุคเทคโนโลยีใหม่หลังสงครามโลกของประเทศเบลเยียม

2.Grand Palace หรือ Grong Plas


       จัตุรัสแกรนด์เพลส หรือ กรองด์ ปลาซ หนึ่งในจตุรัสที่สวยงามที่สุดในยุโรป เป็นกลุ่มอาคารที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมทั้งบาโร้ค โกธิค นีโอ-โกธิค และเป็นสถานที่ซึ่งยูเนสโก้ ยกย่องให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี ค.ศ.1983 ขณะที่คุณเดินเล่นไปตามจัตุรัสอันโอ่อ่า คุณจะรู้สึกราวกับว่าได้ย้อนเวลาไปในประวัติศาสตร์ยุโรปยุคกลาง สิ่งก่อสร้างเด่นชิ้นหนึ่งในนั้นคือ St. Jacques-sur-Coudenberg โบสถ์ยุคศตวรรษที่ 18 และหอระฆังอันแสนงดงาม  คุณสามารถเดินขึ้นบันไดไปจนสุดเพื่อชมวิวอันน่าประทับใจของกรุงบรัสเซลส์ หรือเข้าไปในโบสถ์เพื่อชื่นชมงานตกแต่งอันแสนวิจิตร จตุรัสแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของกรุงบรัสเซลล์ ที่เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวต้องมาเยือน  และทุก 2 ปีที่แห่งนี้จะมีการจัดเทศกาลที่มีชื่อเสียง ไปทั่วโลกอย่างเช่น เทศกาลพรมดอกไม้ (Flower Carpet) ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

3. ทะเลสาบ Minnewater


       ทะเลสาบแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ทะเลสาบแห่งรัก” เป็นจุดชมวิวขนาดใหญ่   สถานที่ปิกนิกริมน้ำ และยังเป็นสถานที่พักผ่อนจากความพลุกพล่านบนถนนในศูนย์กลางของเมืองบรูจส์ 
 โดยที่บ้านเรือนริมน้าจะมีลักษณะเป็นหอคอยคล้ายกับเทพนิยายรวมถึงต้นวิลโลว์ที่พริ้วไหวไปมาอยู่รอบทะเลสาบยิ่งทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยความสงบร่มเย็นและความงดงามทางธรรมชาติ   บรรยากาศอันสุดแสนจะโรแมนติกนี้เองจึงทำให้เป็นสถานที่นี้เป็นแหล่งยอดนิยมสำหรับคู่รักหรือหนุ่มสาวที่มานัดพบกันจนได้ชื่อว่าทะเลสาบแห่งความรัก                                                                                  
ทะเล
สาบแห่งนี้จะเชื่อมต่อกับคลองโดยรอบเมืองทะเลสาบ Minnewater นี้ครั้งหนึ่งเคยได้เป็นเส้นทางการคมนาคมที่สำคัญของเมืองในช่วงยุคกลาง ปัจจุบัน ทางน้ำดังกล่าวไม่มีเรือสัญจรแล้วแต่ถูกแทนที่ด้วยเป็ดและหงส์ โดยเฉพาะหงส์นั้นถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองบรูจส์เลยทีเดียว  และในช่วงหน้าหนาวก็ยังเหมาะแก่การเดินชมทะเลสาบ Minnewaterด้วย เช่นกัน เพราะน้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง และต้นไม้รอบๆ ก็จะถูกปกคลุมด้วยหิมะ เป็นภาพที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง
4. มินิ-ยุโรป  (Mini Europe)

        สวนอันแสนสนุกใต้ Atomium นี้มีแบบจำลองสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของยุโรปนับร้อยๆ รายการ นักท่องเที่ยวจะได้ชมหอไอเฟล หอเอนปิซา และกำแพงเบอร์ลินอันเป็นไฮไลท์ของของแบบจำลองสถานที่ท่อง เที่ยวของโลกแห่งนี้   ผู้จัดทำเมืองจำลองมินิยุโรปได้ลงเงินหลายล้านดอลลาร์และลงแรงนับพันๆ ชั่วโมงเพื่อสร้างสรรค์แบบจำลองสถานที่สำคัญๆ ในสหภาพยุโรปออกมาอย่างละเอียดประณีต โดยได้นำเสนอเมืองต่างๆ กว่า 80 แห่งออกมาในแบบจำลองถึง 350 รายการ  นักท่องเที่ยวจะได้ชมโชว์
   แบบอินเทอร์แอคทีฟที่ทำงานอยู่ทั่วสวน เช่น ภูเขาไฟวิสุเวียสที่กำลังระเบิด และระบบคมนาคมหลายรูปแบบที่แล่นฉิวไปมาในพื้นที่นี้ แบบจำลองเหล่านี้จะย่อส่วนลงในขนาด อัตราส่วน 1:25 เมื่อเทียบกับสถานที่จริง และใหญ่พอที่จะเห็นลายสลักและการตกแต่งอันละเอียดลออ ที่นี่คุณจะได้ยินเสียงลั่นระฆังบิ๊กเบนและเสียงบรรเลงแมนโดลินจากเวนิส หรือจะนั่งชมธารน้ำที่ไหลผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ นอกจากนั้นยังจะได้ชมสถาปัตยกรรมโรมันของอิตาลี ผลงานชิ้นเอกในแบบโกธิคของฮังการี และอื่นๆ อีกมากมายในที่เดียวกันถือเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามาก แบบจำลองแต่ละชิ้นจะมีป้ายให้ข้อมูลชัดเจน พร้อมความรู้ทางประวัติศาสตร์ของแต่ละสถานที่อย่างครบถ้วน
5. “ดินเนอร์ อิน เดอะ สกาย” Dinner in The Sky


           ภัตตาคารกลางเวหา ร้านอาหารสุดแหวกแนวของ ญอง ฟรองซัวส์ เกรอเนียร์ นักธุรกิจหนุ่มชาวเบลเยียม ซึ่งได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในห้าร้านอาหารที่แปลกที่สุดในโลกไฮไลท์ของ Dinner in The Sky คือ ทางร้านจะนำแขก 22 คน มานั่งบนโต๊ะอาหารยาว และรถเครนก็จะทำการ “ยก” โต๊ะขึ้นไปที่ความสูงเหนือพื้นดิน 150 ฟุต โดยมีเชฟ และพนักงานเสิร์ฟ คอยดูแลไม่ต่างจากการทานอาหารในร้านทั่วไปเภัตตาคารกลางเวหาที่ว่านี้อยู่ในกรุงบรัสเซลส์เมืองหลวงของเบลเยี่ยม ซึ่งจะให้บริการกับลูกค้าที่ไม่กลัวความสูง ลูกค้าของภัตตาคารสามารถลิ้มรสอาหารชั้นเลิศพร้อมชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองบรูจส์ได้อย่างเต็มอิ่มในแบบพาโนรามา ภัตตาคารกลางเวหานี้จะย้ายทำเลให้บริการที่แตกต่างกันไปในแต่ละสัปดาห์เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสทิวทัศน์ต่างๆ รอบกรุงบรัสเซลส์ ดินเนอร์ อิน เดอะ สกาย ก่อตั้งในกรุงบรัสเซลส์เมื่อปี พ.ศ. 2549 ก่อนจะกลายเป็นแบรนด์ระดับโลกอย่างรวดเร็วโดยห้บริการมาแล้วใน 43 ประเทศ



วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560

เทคนิคการจำ

5เทคนิคการจำ
   
        การอ่านหนังสือเป็นสิ่งที่หลีกหนีไม่ได้ หลายๆคนอ่านเท่าไหร่ก็จำไม่ได้ ทำให้เมื่อสอบก็ทำคะแนนได้ไม่ดี จนอาจจะท้อแท้ในการเรียน วันนี้จะมาแนะนำเทคนิคการจำเนื้อหา เวลาอ่านหนังสือ เพื่อที่จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้และจำบทเรียนได้มากขึ้น

1. จำเป็นภาพ
          วิธีการจำเป็นภาพนั้น เป็นวิธีที่คนเก่งๆจำนวนมากเขาใช้ในการจำเนื้อหาภายในเวลาอันสั้นเลยละ ถ้าหากว่า สามารถทำได้การจำเนื้อหาบทเรียนต่างๆก็คงไม่ใช่เรื่องยากต่อไป สำหรับเทคนิคการจำเป็นภาพนั้นทำได้ง่ายๆโดยการเปิดรูปภาพดูไปด้วยเมื่อต้องอ่านคำบรรยายลักษณะต่างๆเช่น เมื่ออ่านเรื่องเกี่ยวกับไตแล้วพบคำศัพท์แปลกๆมากมายทั้ง renal pelvis, major calyx, minor calyx อ่านให้ตายยังไงก็จำไม่ได้ ลองเปิดภาพดูสิครับ ในภาพจะมีการระบุตำแหน่งของแต่ละชื่อให้ด้วย ก็จะช่วยให้จำเนื้อหาได้นานขึ้น เพราะเห็นภาพโครงสร้างมากขึ้นไง

2. ใช้ไฮไลต์เข้าช่วย
          ถ้าหากว่าอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ จำได้บ้าง หลุดประเด็นบ้าง สุดท้ายอ่านจบอาจจะพบว่า จำอะไรไม่ได้เลย วิธีการแก้คืออ่านแล้วไฮไลต์ไปด้วย เพราะการไฮไลต์นั้นเป็นการย้ำกับสมองของเราเองว่าประเด็นนี้สำคัญ ประเด็นนี้ต้องรู้ ทำให้สมองได้คิดในประเด็นที่ไฮไลต์ ก่อนที่จะนำไปเก็บไว้ในส่วนความจำของสมองต่อไป การไฮไลต์นั้นนอกจากจะทำให้เราจำเนื้อหาได้ดีขึ้นแล้วนั้นยังทำให้เมื่อเราต้องกลับมาอ่านทบทวนเนื้อหา นั้นสามารถทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย เพราะถ้าเวลาน้อย ก็อ่านเฉพาะประเด็นหลักๆที่เคยไฮไลต์ไว้ 

3. จะจำได้ต้องหัดเขียน
          เทคนิคนึงที่ช่วยให้สามารถจำเนื้อหาได้คือการเขียน เช่น สูตรที่ต้องจำในวิชาฟิสิกส์มีเยอะมากๆถ้าจะนั่งท่องไปเรื่อยๆทุกสูตร รับรองว่าท่องเสร็จก็ลืม จำไม่ได้หรอก แต่ลองฝึกเขียนสูตรลงกระดาสิ เมื่อต้องเขียนนั้นทุกอย่างที่จะเขียนออกมาได้นั้นต้องผ่านสมอง ดังนั้นสูตรฟิสิกส์ที่จะเขียนออกมาได้นั้นก็ต้องผ่านสมอง แล้วสมองก็จะเก็บสูตรนั้นเข้าไปส่วนความจำได้ 

4. ทำสรุปสั้นๆ
          เมื่ออ่านเนื้อหาบทใดบทหนึ่งจบแล้ว ลองทำสรุปเนื้อหาสั้นๆของบทนั้นๆ ซึ่งจะช่วยให้จำเนื้อหาได้มากเลย เพราะคนที่จะสามารถสรุปเนื้อหาได้นอกจากจะต้องจำได้แล้ว ยังต้องเข้าใจ และจับประเด็นที่สำคัญได้ออกด้วย ดังนั้นถ้าหากได้ลองสรุปเนื้อหาก็เปรียบเสมือนการได้ทบทวนเนื้อหาอีกครั้ง เช็คความเข้าใจ และฝึกจับประเด็น

5. ต้องอ่านบ่อยๆ 
          ข้อนี้ตรงไปตรงมา เพราะแน่นอนว่าการอ่านบ่อยๆนั้นจะช่วยให้สามารถจำเนื้อหาได้ดีขึ้น และดีกว่าการอ่านเยอะๆ อาจจะแบ่งเวลาช่วงเย็นของทุกวัน ในการอ่านทบทวนบทเรียนที่เรียนมาในวันนั้นๆแค่นี้ก็จะช่วยให้จำบทเรียนได้มากขึ้น
ที่มา http://www.top-atutor.com

วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

Happo Pond : นางาโน่


    Happo Pond ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติของนากาโน่ รู้จักกันในชื่อของสถานที่เหมาะกับการเล่นสกีในฤดูหนาว แอ่งน้ำนี้อยู่ในภูเขาที่มีความสูงถึง 2,060 เมตรจากระดับน้ำทะเล


Otaru Snow Light Path Festival : ฮอกไกโด


  เทศกาลในช่วงฤดูหนาวที่พลาดไม่ได้อีกแห่งที่ฮอกไกโดคือ เทศกาล Otaru Snow Light Path Festival  จัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นเวลา 10 วัน


Gokayama : โทยามะ



   Gokayamaเป็นหมู่บ้านมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในจังหวัดโทยามะ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่มีสถาปัตยกรรมที่ดีที่สุด และเก่าแก่ที่สุด มีอายุกว่า 400 ปี ไฮไลท์สำคัญก็คือ บ้านทรงแบบ gassho ซึ่งหลังคาบ้านจะมุงด้วยหญ้าทำให้มีความลาดเอียงอย่างมากนี้ เป็นลักษณะพิเศษที่เห็นได้ชัด เป็นรูปแบบงานก่อสร้างที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมือง Gokayama เนื่องจากอยู่ในพื้นที่หิมะตกหนัก หลังคาแบบนี้จะทำให้หิมะที่ทับถมบนหลังคาไหลลงมาได้ง่าย


Adachi Museum of Art : ชิมาเนะ


   สวน Adachi เป็นส่วนหนึ่งของ Adachi Museum of Art ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นสวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น และแสดงให้เห็นถึงภาพวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน 


โตเกียว ทาวเวอร์Tokyo Tower



  โตเกียว ทาวเวอร์ หอคอย สื่อสารขนาดใหญ่ที่สวยงามมาก ตั้งอยู่ในเขตมินะโตะ กรุงโตเกียว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเพราะใน 1 ปี มีผู้ร่วมเข้าชมถึง 2 ล้าน 5 คน อีกทั้งยังเป็นเหมือนสัญลักษณ์เพื่อแสดงถึงอำนาจและอิทธิพลทางเศรษฐกิจของ โลก เป็นที่ถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ วิทยุ ซึ่งที่นี่ได้แรงบันดาลใจมาจากหอคอยสูงในปารีส สร้างในสไตล์สถาปัตยกรรมโบราณแบบญี่ปุ่น ทั้งนี้ โตเกียว ทาวเวอร์ จะเปิดทำการตั้งแต่ 09.00-20.00 น. โดยไม่มีวันหยุด

ที่มา http://travel.trueid.net/detail/41842


วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

คำสอนของ ในหลวง ร.9 "ข้าว 1 กระสอบมีกี่เม็ด"

      ในหนังสือ "ความสุขของสมเด็จพระเทพฯ" เขียนโดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ ได้บันทึกเรื่องราวความสุขในมุมต่างๆของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไว้มากมาย โดยมีเรื่องนึงมีแสดงถึงพระอัจฉฉริยภาพของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นั่นคือเมื่อทรงให้ สมเด็จพระเทพฯ เมื่อพระชนมายุได้ 8 พรรษา หาคำตอบว่าข้าว 1 กระสอบมีกี่เม็ด                                           ในครั้งนั้นสมเด็จพระเทพฯทรงทูลถามด้วยความใคร่รู้ว่า "ข้าวสาร 1 กระสอบมีกี่เม็ด"         พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดำรัสตอบว่า                                        "ข้าวสาร 1 กระสอบมีน้ำหนัก 100 กิโลกรัม กิโลกรัมหนึ่งมีเครื่องชั่งวัดได้ 10 ขีด ดังนั้นก็เอาภาชนะไปตวงข้าวสารมาชั่งได้ 1 ขีด แล้วก็นับข้าวสารที่ตวงมานั้นมีกี่เม็ด แล้วก็เอา 10 คูณ เสร็จแล้วเอา 100 คูณผลลัพธ์อีกที ก็จะได้จำนวนเม็ดข้าวใน 1 กระสอบ"                       เมื่อได้ยินดังนั้นสมเด็จพระเทพฯ จึงทูลตอบว่า "ไม่อยากรู้แล้ว"                                         พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงมีพระราชดำรัสตอบอีกว่า "ไม่ได้หรอก หากถามแสดงว่าอยากรู้ ดังนั้นจงไปหาข้าวสารมาตวงและนับเสีย เมื่อได้ผลเป็นอย่างไรให้มาบอกด้วยว่าข้าวสาร 1 กระสอบมีกี่เม็ด เพราะว่าก็อยากรู้เหมือนกัน"                                                                               นับเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานแด่สมเด็จพระเทพฯ รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วยว่าหากสงสัยแล้วจึงค้นหาคำตอบให้ได้โดยไม่ย่อท้อและล้มเลิกไปกลางคัน

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ไซบีเรียน ฮัสกี้


                           

ลักษณะทั่วไป
    
     ไซบีเรียน ฮัสกี หรือเรียกสั้นๆว่า ไซบีเรียน สุนัขขนาดกลาง ขนฟูแน่น แข็งแรง คล่องแคล่ว มีหน้าตาเป็นอาวุธ เพราะ หน้าดุ ทำให้คนสามารถกลัวได้ ลักษณะจะเหมือนหมาป่า แต่จริงๆแล้วไม่ดุอย่างหน้าตาหรอกนะ เป็นมิตรกับคนและเข้ากับคนได้ง่าย สุนัขพันธุ์ไซบีเรียนนี้จะรู้จักกันดีในกีฬาลากเลื่อนที่เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยม

ความเป็นมา
     
     ไซบีเรียน อัสกีนี้มีต้นกำเนิดในตะวันออกของไซบีเรีย คำว่า “ฮัสกี้” ได้มาจากชื่อที่ใช้เรียกชาวอินนูอิต(Inuit) โดยเพาะพันธุ์มากจากสุนัขในวงศ์สปิตซ์(สุนัขขนยาวและหนา)ของชาวชุกซี ต่อมาได้ถุกนำเข้ามาในอลาสกาและแพร่พันธุ์เข้าสู่สหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา จนพัฒนามาเป็นสุนัขลากเลื่อนเมื่อประมาณ ค.ศ.1900 ต่อมาจึงนำมาไซบีเรียนเลี้ยงเป็นสุนัขตามบ้าน


                      

ลักษณะนิสัย

     ไซบีเรียนเป็นสุนัขที่ฉลาด ไฮเปอร์ตื่นตัว พลังงานสูง สมาธิค่อนข้างสั้น รักอิสระ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เข้าขั้นเรียก่า ดื้อ ขี้บ่น ขี้เถียง ฝึกยาก เป็นนักทำลายข้าวของตัวยง แต่ไซบีเรียนเป็นน้องหมาที่เป็นมิตรกับทุกคน ไม่ว่าจะคุ้นหน้า หรือแปลกหน้า ไหวพริบดี ฉลาดแกมโกง ซึ่งไหวพริบกับความฉลาดที่มีของพวกเขานั้นไม่ค่อยได้เอาไปใช้ประโยชน์สักเท่าไหร่ โดยส่วนมากจะเป็นเล่ห์เหลี่ยมเพื่อหาทางซุกซนเสียมากกว่า ไซบีเรียนฮัสกี้ชอบหอนมากกว่าเห่า จนกลายเป็นปัญหาสร้างความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัวและเพื่อนบ้าน พวกเขาค่อนข้างฝึกยาก จึงควรได้รับการฝึกอย่างสม่ำเสมอ เป็นประจำทุกวัน วันละ 10-15 นาที แต่ควรได้รับการออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันมากกว่า 15 นาที โดยการวิ่ง เพื่อให้พวกเขาได้เผาผลาญพลังงาน ไม่ซุกซนจนเกินควร

   

ประโยชน์ของผลไม้


ลูกพลับ


มีโพแทสเซียมสูง และมีวิตามินซีสูง มีสรรพคุณช่วยให้หายอ่อนเพลีย บรรเทาอาการร้อนใน เจ็บคอ คอแห้ง เป็นแผลในปาก ละลายเสมหะ และบำรุงปอด นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการท้องเดินได้อีกด้วย

แก้วมังกร


มีสารอาหารหลายชนิด เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม แมกนีเซียม วิตามินซี และมีเส้นใย มีสรรพคุณช่วยลดโคเลสเตอรอล ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ ลดความดันโลหิต ควบคุมน้ำหนัก แก้ท้องผูก ป้องกันมะเร็งสำไส้ใหญ่และช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น

มัลเบอร์รี่(หม่อน)


มีสรรพคุณที่สามารถต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง ผู้ที่รับประทานเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งได้ และยังช่วยบำรุงไตให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข่วยบำรุงโลหิต บำรุงประสาทตา ทำให้สายตาแจ่มใส ร่างกายก็สุขสบาย

สตรอเบอร์รี่


มีวิตามิน ซี อยู่เป็นจำนวนมาก มีสรรพคุณที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดอุดตัน โรคหวัดและโรคภูมิแพ้ ช่วยทำให้ระบบการดูดซึมอาหารของร่างกายดียิ่งขึ้น ลดอาการท้องผูก ช่วยให้เจริญอาหาร




วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2560

สวีดัส


    สวัสดี.........

    เราชื่อ ธันยพร วิวัฒน์วรกาญจน์ 
    
    ชื่อเล่นนะหรอ ตอนประถมจะเรียกว่าเมย์เล็ก พอมาตอน ม.ต้นจะเรียกว่าเมย์ธัน แต่พอมา ม.ปลายเรียกว่าเมย์  ถามว่าทำไมเรียกแตกต่างกันจัง อืม........อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน หาคำตอบไม่ได้
ส่วนตอนนี้ เราเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1

เกิดวันที่ 16 เมษายน 2544   

สีที่ชอบ: สีฟ้า สีเขียว

สัตว์ที่ชอบ:สุนัข แมว (สัตว์ที่มีขนปุยๆนิ่มๆ)

facebook:Thanyaporn Wiwatworakan

 IG:typ_1604
     
    นิสัยอ่ะหรอ สำหรับในมุมมองของครูนั้น จะมองว่าเงียบๆ แต่ในมุมมองของเพื่อนๆคือ เงี๊ยบเงียบ(มั้ง)5555555 เงียบมากเงียบมาย เงียบจนวัวตายควายล้ม
      ในโทรศัพท์นั้นไม่ต้องพูดถึงเลยรูปเพื่อนเยอะแยะ
 เราน่ารักกับทุกคนนะ แต่เพื่อนๆเราน่ารักกว่า ไม่เชื่อเรามาดูรูปกันดีกว่า


คาบฟิสิกส์ก็นอน

จะกลับบ้านแล้วก็ยังนอน


เข้าแถวก็นอน


ให้มานั่งฟังการบรรยายก็นอน



เที่ยวก็นอน

เหนื่อยก็นอน


ไม่มีไรทำก็นอน

สวยค่ะ55555

ไม่มีไรกินก็นอน

สุดท้ายนี้ก็........ขอบคุณทุกๆคนที่สละเวลาเข้ามาชมน้าาา ไปหล่ะบรั๊ยยยยยยยย